ปัจจัยสำคัญเกี่ยวกับการพัฒนาการเล่นกีตาร์คลาสสิก

16 มี.ค. 2565

แม้กีตาร์คลาสสิกจะเป็นเครื่องดนตรีซึ่งมีเสน่ห์และลักษณะเฉพาะอันเป็นที่ประจักษ์อยู่หลายประการ เช่น กีตาร์คลาสสิกเป็นเครื่องดนตรีที่สามารถใช้บรรเลงบทเพลงได้อย่างสมบูรณ์ครบถ้วนในตัวเองอันเปรียบเสมือนวงออร์เคสตร้าวงหนึ่งโดยที่ไม่จำต้องมีเครื่องดนตรีอื่นประกอบ ขนาดของเครื่องดนตรีก็ค่อนข้างพอเหมาะโดยสามารถนำติดตัวไปได้ตามที่ต่าง ๆ บทเพลงสำหรับกีตาร์คลาสสิกก็มีจำนวนไม่น้อยและครอบคลุมดนตรีหลากหลายยุคสมัยและประเภท เป็นต้น อย่างไรก็ตาม กีตาร์คลาสสิกก็มีข้อท้าทายบางประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กีตาร์คลาสสิกอาจถูกจัดว่าเป็นเครื่องดนตรีที่เสียงไม่ดังนักเมื่อเทียบกับเครื่องดนตรีอื่น ๆ  และยังมีเสียงที่สั้น ซึ่งผู้เล่นจำเป็นต้องเข้าใจและฝึกฝนทักษะสำหรับการรับมือกับข้อท้าทายเหล่านั้น เพื่อพัฒนาการบรรเลงและการแสดงของตนทั้งการบรรเลงแบบเดี่ยวและการบรรเลงร่วมกับเครื่องดนตรีอื่น ๆ หากผู้เล่นไม่สามารถเข้าใจและฝึกฝนให้ดี ก็จะเป็นอุปสรรคต่อความสามารถในการบรรเลงและการแสดงในระยะยาว และย่อมส่งผลกระทบถึงการถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจแก่ผู้อื่นต่อไปด้วย

ในบทความนี้ ผู้เขียนจะยกตัวอย่างปัจจัยที่สำคัญบางประการที่ผู้เล่นควรพิจารณาสำหรับการฝึกฝนทักษะตามที่กล่าวมาข้างต้น

1. ทางนิ้ว

ทางนิ้ว หรือ fingering ที่ดีหรือเหมาะสมจะช่วยให้ผู้เล่นสามารถบรรเลงบทเพลงได้ราบรื่นต่อเนื่องและสื่อสารรายละเอียดของเสียงดนตรีได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังมีส่วนช่วยสร้างความแม่นยำให้แก่ผู้เล่นตั้งแต่ขั้นตอนของการซ้อมจนไปถึงการแสดงจริง เนื่องจากกีตาร์คลาสสิกเป็นเครื่องดนตรีที่สามารถใช้บรรเลงเสียงในจำนวนมากและซับซ้อนโดยพร้อมกัน เช่น การบรรเลงคอร์ดพร้อมกับทำนอง เป็นต้น ทางนิ้วจึงเป็นปัจจัยที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อบทเพลงมีความซับซ้อน ทางนิ้วที่ไม่ดีหรือไม่เหมาะสมอาจทำให้เสียงดนตรีไม่ต่อเนื่องและอารมณ์ของบทเพลงติดขัด เช่น การยกนิ้วเร็วเกินไปเพื่อรีบไปเล่นในโน้ตหรือคอร์ดถัดไปจะทำให้เสียงที่เกิดขึ้นมาก่อนขาดหายไปโดยที่กีตาร์คลาสสิกก็เป็นเครื่องดนตรีที่เสียงสั้นอยู่แล้ว เป็นต้น

2. การฟัง

การฟังเป็นทักษะที่สำคัญสำหรับนักเรียนและนักดนตรีทั่วไป อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้เล่นกีตาร์คลาสสิกควรทำความเข้าใจว่าแท้จริงแล้วกีตาร์คลาสสิกมีความสามารถในการสร้างสีสันหรือเลียนแบบลักษณะของเครื่องดนตรีชนิดต่าง ๆ มากมาย เช่น เสียงเทคนิคของเครื่องสาย ลักษณะบางอย่างของเครื่องเป่า เสียงอย่างเครื่องกระทบ เป็นต้น ดังนั้น ผู้เล่นจึงควรศึกษาโดยการฟังและสังเกตจดจำเสียงลักษณะต่าง ๆ และทำความเข้าใจบทบาทหน้าที่ของเครื่องดนตรีอื่น ๆ และศึกษาบทเพลงประเภทต่าง ๆ ด้วย อันรวมถึงบทเพลงสำหรับวงออร์เคสตร้าและเชมเบอร์

3. การศึกษาเพิ่มเติมจากผู้มีความรู้และประสบการณ์

ผู้เล่นยังควรศึกษาเพิ่มเติมจากอาจารย์หรือผู้เล่นเครื่องดนตรีอื่น ๆ ที่มีความรู้และประสบการณ์ เพื่อให้เข้าใจถึงหลักการปฏิบัติ การวิเคราะห์และข้อสังเกตเพิ่มเติมอื่นด้วย ซึ่งการฟังและการศึกษาจากข้อเขียนเพียงอย่างเดียวอาจไม่สามารถทำให้ผู้เล่นกีตาร์คลาสสิกเข้าใจสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างแท้จริง  ทั้งนี้ ตามประสบการณ์ของผู้เขียน เห็นว่าจุดอ่อนหนึ่งของนักเรียนและผู้เล่นกีตาร์คลาสสิกคือความเข้าใจเกี่ยวกับวงและบทเพลงออร์เคสตร้า

ปัจจัยต่าง ๆ ตามที่กล่าวมานี้ ผู้เล่นเครื่องดนตรีอื่น ๆ ยังสามารถนำไปพิจารณาประยุกต์ใช้ได้อีกด้วย

Jetjumnong Jongprasert

Classical Guitar Department